จอทีวีมีกี่แบบกันนะ

จอทีวี

ความสนุกเพลิดเพลินของทุกๆ บ้านย่อมมีสิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าคาดไม่ได้กันอย่างแน่นอน ซึ่งนั้นก็คือ “ทีวี” นั้นเองยังไงหล่ะครับ เพราะด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เสียงและความคมชัดนั้นทำให้ทีวีในปัจจุบันสามารถทำได้หลายๆ อย่างเลยก็ว่าได้ครับ แต่ทุกๆ ท่านทราบกันหรือไม่ครับว่า “จอทีวีมีกี่แบบ” วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปค้นหาคำตอบกันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันเลยดีกว่าครับผม

กว่าจะมาเป็นทีวีในปัจจุบันในปัจจุบัน?

John Logie Baird วิศกรชาวสกอตแลนด์เป็นผู้คิดค้นระบบ Mechanical Television หรือเครื่องรับโทรทัศน์ขาวดำระบบเชิงกลเป็นเครื่องแรกของโลก ในปี ค.ศ. 1925 และยังเป็นนักประดิษฐ์คนแรกที่คิดค้นระบบโทรทัศน์สีออกสู่สายตาชาวอังกฤษ รวมถึงเป็นบุคคลแรกที่ประดิษฐ์หลอดภาพโทรทัศน์สีแบบอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย

ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งของ Vladimir K. Zworykin นักประดิษฐ์ชาวรัสเซียที่อพยพไปอยู่อเมริกา ก็สามารถออกแบบระบบจำลองโทรทัศน์อิเล็กทรอนิกส์ และขอจดสิทธิบัตรผู้ประดิษฐ์หลอดสแกนอิเล็กตรอนได้เป็นคนแรกในปี ค.ศ. 1923 แต่เขายังไม่สามารถประกอบเป็นเครื่องโทรทัศน์ได้สำเร็จ กระทั่งปี ค.ศ. 1934 โทรทัศน์เครื่องแรกของเขาจึงเสร็จสมบูรณ์

ในเวลาไล่เลี่ยกันนักประดิษฐ์ชาวอเมริกา Philo Taylor Farnsworth สามารถสาธิตการส่งสัญญาณโทรทัศน์เครื่องแรกของระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยหลอดสแกนของเขาเองในวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 1927 โดยภาพแรกที่ส่งสัญญาณภาพไปสู่เครื่องรับโทรทัศน์ครั้งแรก คือภาพของ เอลมา และ คลิฟ การ์ดเนอร์ ภรรยาและน้องภรรยาของเขาเอง

แต่เขายื่นจดสิทธิบัตรทีหลังซโวรีคิน ทำให้ช่วงปลายทศวรรษที่ 30 เกิดการต่อสู้ทางกฎหมาย แต่แล้วสุดท้ายศาลตัดสินให้ฟาร์นสเวิร์ธชนะคดี เขาจึงได้รับสิทธิบัตรเป็นผู้ประดิษฐ์โทรทัศน์ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์เป็นคนแรกของโลก

จอทีวีมีกี่แบบ

จอแสดงผลของทีวีในปัจจุบันนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 4 แบบ ที่น่าใช้งาน อันได้แก่…

LED TV

LED TV (Light Emitting Diode) หลายคนคงเคยได้ยินชื่อทีวี LED บ่อยครั้ง เพราะถือเป็นทีวีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เทคโนโลยีทีวี LED ต่อยอดมาจากทีวี LCD โดยเปลี่ยนจากหลอดไฟ CCFL มาใช้หลอดไฟ LED 3 สี (แดง/น้ำเงิน/เขียว) เป็นตัวกำเนิดแสง ซึ่งให้แสงสว่างได้มากกว่า แต่กินไฟน้อยกว่า ทั้งยังมีขนาดเล็ก ทำให้ทีวี LED บางกว่าทีวี LCD มาก

Full Array LED (Full-Array Local Dimming)

เป็นเทคโนโลยีหน้าจอทีวีที่ใช้หลอด LED ในรูปแบบอาเรย์เต็ม (Full Array) โดยการกระจายหลอด LED ทั้งหมดไปตามพื้นที่ของหน้าจอ โดยที่แต่ละหลอด LED สามารถควบคุมความสว่างได้แยกตามซองเรืองแสงบนหน้าจอ ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการความสว่างและความมืดของพื้นที่ต่างๆ บนหน้าจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการควบคุมความสว่างและความมืดในพื้นที่แต่ละส่วน จะช่วยให้มีการแสดงผลที่มีความคมชัด ความสว่างและความดำที่ดีกว่าหน้าจอทีวีที่ใช้หลอด LED ในรูปแบบ Edge-Lit (ที่ตั้งอยู่บริเวณขอบของหน้าจอ) หรือ Direct-Lit (ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของหน้าจอ) เทคโนโลยี Full Array LED บางรุ่นยังสามารถร่วมใช้งานกับเทคโนโลยี Local Dimming เพื่อปรับความสว่างและความมืดในแต่ละโซนของหน้าจออิสระกัน ซึ่งช่วยให้ได้ภาพที่มีความคมชัด ความสว่างและความดำที่ดีขึ้นได้อีกด้วย

OLED TV

OLED TV (Organic Light Emitting Diode) เทคโนโลยีจอทีวีสมัยใหม่ ไม่พึ่งหลอดไฟแต่จะใช้เม็ดพิกเซลเป็นแหล่งกำเนิดแสงคล้ายกับทีวีพลาสม่า ทำให้จอทีวีมีความบางลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์ม สามารถยืดหยุ่นทำให้โค้งได้ (ที่เรียกกันว่าทีวีจอโค้ง) ภาพที่ได้จากทีวี OLED มีสีสันสมจริง และสวยงามสม่ำเสมอไม่ว่าจะนั่งดูทีวีจากมุมไหนของห้องก็ตาม

QLED TV

QLED TV (Quantum-Dot Light-Emitting Diode) ใช้เทคโนโลยี Quantum Dot สุดล้ำ ทำงานร่วมกับสารเรืองแสงอนุภาคเล็ก สำหรับเป็นแหล่งกำเนิดแสงสร้างเม็ดพิกเซลเพื่อแสดงผลออกมาเป็นภาพ ซึ่งให้เฉดสีที่แม่นยำ 100% ภาพที่ออกมามีสีสันสมจริง เป็นธรรมชาติ และแสดงภาพคมชัดได้ไม่ว่าทีวีจะอยู่ในห้องมืดหรือห้องสว่างมากก็ตาม ถือเป็นเทคโนโลยีจอทีวีที่ทันสมัยที่สุดในเวลานี้

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “จอทีวี” พร้อมกับประวัติต้นกำเนิดทีวีที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ ท่านกันนะครับ

About the Author

You may also like these