4 แนวทางการดูแลโทรศัพท์

การดูแลโทรศัพท์

ถ้าจะกล่าวถึง “โทรศัพท์มือถือ” นั้น กล่าวได้ตามตรงแบบไม่ต้องอ้อมไปปอ้อมมาเลยว่าแทบจะเป็นหนึ่งในอวัยวะที่คาดไม่ได้ของคนเราทุกเคนแล้วหล่ะครับ เพราะโทรสศัพท์เครื่องนึงในสมัยนี้สามารถทำอะไรได้หลากหลายอย่างเลยหล่ะครับ จะดีกว่ามั้นถ้าเราดูแลโทรศัพท์ของเราให้ไม่อืดใช้งานได้ดีเสมอ วันนี้เราเลยอยากจะมาพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “4 แนวทางการดูแลโทรศัพท์” ที่น่าสนใจกันครับจะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ

ไหนไปดูกันดีกว่าครับว่าเราจะดูแลโทรศัพท์ของเราได้อย่างไรบ้าง

1. ใส่เคสกันกระแทก

ติดฟิล์มกันรอย น่าจะเป็นขั้นตอนแรกที่ควรทำเลยหลังจากซื้อมือถือ ก็คือการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอหรือรอบตัวเครื่อง พร้อมทั้งใส่เคสกันรอยเพื่อกันกระแทก ซึ่งมือถือบางรุ่นก็จะมีแถมมาให้ในกล่อง เราก็จัดแจงให้พนักงานขายใส่ให้ได้เลย หรืออาจไปซื้อพวกกระจกนิรภัยและเคสชนิดพิเศษมาใช้ก็ได้เช่นกัน เพื่อความปลอดภัยที่มากกว่า แต่ถึงกระนั้นก็ต้องระวังไม่ให้โทรศัพท์ตกหรือกระแทกไว้จะดีที่สุดครับ

2. เคลียร์ความจุเครื่องให้เหลือพื้นที่ว่างอยู่เสมอ

สำหรับปัญหามือถือช้า อืด จนทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อมือถือใหม่ไปเลย ความจริงแล้วยังมีทางแก้เบื้องต้นก็คือ ลบรูปภาพ วิดีโอ หรือแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็นออก แต่ถ้าลบเท่าไรพื้นที่ความจุเครื่องก็ยังไม่ค่อยเพิ่มสักที ให้ลองลบไฟล์ขยะจากแอปฯ ต่าง ๆ ออก ส่วนใหญ่จะเป็นแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยอย่าง Facebook, LINE เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้พื้นที่ว่างเพิ่มขึ้นแล้ว หรือจะย้ายไฟล์เก่า ๆ ไปเก็บไว้บน Cloud เช่น Google Drive หรือ Dropbox แล้วลบไฟล์เก่าในเครื่องทิ้งก็ได้เหมือนกัน

3. วางแผน Restart โทรศัพท์มือถือสักสัปดาห์ละครั้ง

เพื่อให้ตัวเครื่องประมวลผลได้พักและจัดดเรียงได้ดียิ่งขึ้นครับ ยางทีอาจจะไม่ต้องทำทุกสัปดาห์ก็ได้นะครับ เพราะบางครั้งทางแบรนด์โทรศัพท์ก็จะปล่อยอัพเดทต่างๆ มากับตัวเรื่องและเราก็ต้องทำการติดตั้งและ Restart ด้วยเป็นปกตินั้นเองครับ

4. ไม่โหลดแอปฯ นอก App Store และ Google Play

แอปพลิเคชันที่มีอยู่ใน App Store ของไอโฟน และ Google Play Store ของแอนดรอยด์นั้นถือว่าเยอะมาก ๆ เมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่สมาร์ตโฟนเพิ่งถือกำเนิดขึ้นมา ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องหาแอปพลิเคชันจากแหล่งอื่นมาใช้งานอีกต่อไป เพราะแอปฯ ที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจาก App Store และ Google Play Store อาจมีมัลแวร์แฝงหรือก่อให้เกิดอันตรายกับตัวเครื่องได้

แล้วสาเหตุของแบตเตอร์รี่โทรศัพท์เสื่อมหล่ะทำอย่างไรได้บ้าง?

  • แบตเตอรี่ลดเร็วกว่าปกติ ตามปกติแล้วเมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม จะสามารถใช้งานได้ทั้งวันแบตเตอรี่จึงจะใกล้หมด แต่ถ้าหากแบตเตอรี่เริ่มหมดเร็วกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด เช่น ใช้ได้ไม่ถึงครึ่งวันหรือหมดเร็วกว่านั้น ก็เป็นตัวบ่งบอกว่าแบตเตอรี่มีการเสื่อมสภาพค่อนข้างมากแล้ว รวมทั้งเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ที่ลดลงเรื่อย ๆ ขณะใช้งานถ้าหากลดครั้งละหลายเปอร์เซ็นต์ก็เป็นอาการของแบตเตอรี่เสื่อมเช่นกัน (ตามปกติแล้วจะลดครั้งละ 1%)
  • ความจุไฟลดลง แบตเตอรี่เมื่อผ่านการใช้งานแล้วความจุจะลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุการใช้งาน ซึ่งแบตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมสภาพจะมีความจุไฟน้อยกว่าแบตเตอรี่ใหม่ ๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยส่งผลให้เวลาชาร์จจะเต็มไวกว่าปกติ และแบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วกว่าปกติด้วยเช่นกัน
  • แบตเตอรี่บวม แบตเตอรี่ที่เสื่อมมาก ๆ อาจมีอาการปูดบวมของตัวแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าหากเป็นมือถือสมัยก่อนที่สามารถเปิดฝาถอดแบตเตอรี่ออกมาดูได้ก็จะสามารถมองเห็นได้ชัด แต่สำหรับมือถือยุคใหม่ที่เปิดฝาหลังเครื่องไม่ได้ เมื่อแบตเตอรี่บวมก็อาจดันฝาหลังหรือหน้าจอให้ปูดบวมหรืออ้าเผยอขึ้นมา

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “4 แนวทางการดูแลโทรศัพท์” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในครับ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ ท่านกันนะครับ

About the Author

You may also like these